• ประชาสัมพันธ์:

  • มิติใหม่ พระเครื่องไทยก้าวสู่บล็อกเชน คุณนิพนธ์ ระยองรีไชเคลิน ว่าด้วยพระเครื่องในยุคดิจิทัล

เกจิอาจารย์ดังวัดหนองเรือ หลวงปู่ทอง ปทีโป(เจ้าตำหรับคาถาพลิกชะตา)

เกจิอาจารย์ดังวัดหนองเรือ จ.ศรีสะเกษ

หลวงปู่ทอง ปทีโป(พระครูทีปการโกศล)

ท่านเกิดในสกุล “บุญรินทร์” เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 ที่บ้านเหม้า หมู่ที่ 2 ต.ละทาย อ.กันทรารมย์จ.ศรีสะเกษ (ไม่ปรากฏบ้านเลขที่) บิดาชื่อ “นายวันดี” มารดาชื่อ “นางหนู” ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เป็นบุตรชายคนที่ 6 ในจำนวนพี่น้อง 7 คน วัยเยาว์เข้ารับการศึกษา ที่โรงเรียนบ้านเหม้า ต.ละทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษจน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก็ได้มา ประกอบอาชีพเกษตรกรรมช่วยเหลือครอบครัว เนื่องจากท่านเป็นคนที่รักในความสันโดษ และชอบศึกษาวิชาอาคมเป็นอย่างมาก เมื่ออายุครบบวชจึงเข้าอุปสมบทในปีพ.ศ.2507 ที่วัดเหม้า ต.ละทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ มี “หลวงปู่นวล กลุญาโณ” วัดบ้านเหม้า เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า “ปทีโป” หลังอุปสมบทได้เริ่มศึกษาสรรพวิชาและปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง เรื่อยมาจนถึง 7 พรรษา ในปีพ.ศ. 2514 ท่านได้ตัดสินใจออกเดินธุดงค์เพื่อเสาะแสวงหาสรรพวิชาและปฏิบัติธรรมเพิ่มเติม โดยมุ่งหน้าสู่ประเทศลาว มี
จุดหมายปลายทางที่วัดมหาพุทธวงศาป่าหลวง นครเวียงจันทร์ ขณะนั้นมี “พระอาจารย์ ชารี ขันติโก” ซึ่งเป็นคนไทย ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส สืบต่อแทนพระอาจารย์ใหญ่ มหาปาน อานันโท ที่มรณภาพลง

ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่า พระอริยสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ ณ วัดมหาพุทธวงศาป่หลวงล้วนเป็นศิษย์ของหลวงปู่ใหญ่ “สมเด็จลุน” ปรมาจารย์ใหญ่แห่งประเทศลาว โดยหลวงปู่ทองท่านได้ฝึกวิชากรรมฐาน และจำพรรษาที่วัดแห่งนี้เป็นเวลา 1 พรรษา ในปี พ.ศ. 2515 หลวงปู่ทองได้กราบลาพระอาจารย์ ชารี ขันติโก และพระอริยสงฆ์ที่วัดมหาพุทธวงศาป่าหลวง ผู้เป็นอาจารย์ของท่านเดินทางกลับมาประเทศไทย ด้วยเหตุเพราะชาวบ้านหนองเรือ ได้กราบนิมนต์ขอให้ท่านมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านหนองเรือ เมื่อหลวงปู่ทองกลับมายังมาตุภูมิบ้านเกิด และรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองเรือแล้ว ด้วยเหตุที่ท่านเป็นพระนักปฏิบัติ ก็ยังมีใจศรัทธาในการศึกษาพระธรรมคำสอนและศึกษา
พระเวทย์อย่างต่อเนื่องครูบาอาจารย์ และผู้ที่มีวิชาอาคมแก่กล้า ทั้งพระอริยสงฆ์ และฆราวาสผู้ปฏิบัติ
ดีปฏิบัติชอบ ซึ่งท่านได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ขอศึกษาพระเวทย์เพิ่มเติม มีดังนี้


1. หลวงปู่นวล กลญาโณ วัดบ้านเหม้า อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ (พระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่ทอง) พระอริยสงฆ์
เจ้า ผู้ศึกษาวิชาสายหลวงปู่ใหญ่สมเด็จลุน ซึ่งเก่งในด้าน “วัวกระทิง” ได้ถ่ายทอดวิชา ให้หลวงปู่ทองจนหมดสิ้น พร้อมทั้งมอบตำราพระเวทย์ให้ท่านด้วย

2. หลวงปูเพ็ง วัดบ้านละทาย พระอริยะสงฆ์เจ้า ผู้เป็นศิษย์เอกของหลวงปู่อ้วน โสภโณ แห่งวัดบ้านโนนค้อ โดยหลวงปู่ทองได้ศึกษาวิชาปราบผี ไล่พรายจากหลวงปู่เพ็ง และสรรพวิชาอื่นๆ

3. พ่อใหญ่ดี ปลงใจ ฆราวาสผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและแก่กล้าในพระเวทย์แห่ง อ.ขุขันธ์ โดยหลวงปู่ทองได้ศึกษาวิชา มนตรามหาเสน่ห์จากพ่อใหญ่ดีจนหมดสิ้น

4.พ่อใหญ่ผาง ฆราวาสผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและแก่กล้าในพระเวทย์ แห่งบ้านผักแพรว อ.กันทรารมย์ โดยหลวงปู่ทองได้ศึกษาวิชา คงกระพันชาตรี จากพ่อใหญ่ผาง จนหมดสิ้น

5. พ่อใหญ่หวั่น ฆราวาสผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและแก่กล้าในพระเวทย์แห่งบ้านเปือย อ.กันทรารมย์ ซึ่งพ่อใหญ่หวั่นนี้เป็นคนที่แก่กล้าพระเวทย์ในทุกๆด้าน โดยหลวงปู่ทองได้ศึกษาวิชาในทุกแขนงจากพ่อใหญ่หวั่นจนหมดสิ้น

6. พ่อใหญ่ทอง ฆราวาสผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและแก่กล้าในพระเวทย์ แห่งอ.ห้วยทับทัน พ่อใหญ่ทองนี้เป็นอีกคนที่แก่กล้าพระเวทย์ในทุก ๆด้าน โดยหลวงปู่ทองได้ศึกษาวิชาในทุกแขนงจากพ่อใหญ่ทอง จนหมดสิ้นเช่นกัน

7. สุดท้ายหลวงปู่ทองได้ยกครูอาจารย์ถึง 25 ท่านและศึกษาวิชาพระเวทย์จนได้สำเร็จแตกฉานวิชาที่เรียนมาทุกแขนงจนเป็นที่เลื่อมใสของบรรดาลูกศิษย์ทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะด้านการลงพระคาถา “พลิกชีวิตเปลี่ยน
ชะตา” ที่เหล่าบรรดาลูกศิษย์ต่างบอกว่า ถ้าได้มาลงพระคาถากับหลวงปู่ทองปทีโป แล้วชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นจนผิดหูผิดตาทุกๆคน

 

cr.หนังสือพระเครื่องพระเกจิ ปีที่ 28 ประจำเดือนมกราคม 2564

ติดต่อสอบถาม